จากรูปด้านบนท่านผู้อ่านจะเห็นว่า Virtualization โซลูชั่นของไมโครซอฟท์มีทั้งหมด 6 แบบ ดังนี้ :
1. Server Virtualization
2. Application Virtualization
3. Desktop Virtualization
4. Presentation Virtualization
5. User State Virtualization
6. Cloud Computing
1. Server Virtualization
เป็นโซลูชั่นที่เข้ามาจัดการในเรื่องของการย้ายระบบที่ทำงานอยู่ใน Physical เซิรฟเวอร์ ในองค์กรให้มาทำงานในรูปแบบของ Virtual Machines แทน เพื่อช่วยองค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าไฟ, ค่าเช่าพื้นที่ของอาคาร และค่าบำรุงรักษาเซิรฟเวอร์ต่าง ๆ เป็นต้น อันที่จริงแล้วต้องบอกว่า Server Virtualization มีประโยชน์มากมายครับ และในปัจจุบันนี้มีหลาย ๆ องค์กรที่ได้ย้ายมาทำงานใน Server Virtualization เรียบร้อยแล้วครับ ทำให้การดูและบริหารจัดการระบบทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้นครับ สำหรับ Product ที่เข้ามาจัดโซลูชั่นนี้คือ Windows Server 2008 หรือ Windows
Server 2008 R2 ครับ โดยในระบบปฏิบัตินี้จะมี Role หนึ่งที่มาทำหน้าที่นี้คือ Hyper-V ครับ ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายท่านน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี และที่สำคัญไปกว่านั้นคือท่านผู้อ่านสามารถติดตั้งและใช้งาน Hyper-V ฟรีครับ !!!!! เพราะ Hyper-V เป็น Role ที่มาพร้อมกับ Windows Server 2008 และ R2 อยู่แล้ว ดังนั้นทำให้องค์กรที่กำลังมีแผนงานที่จะย้ายจากระบบเดิมหรือกำลังมีโปรเจคใหม่ โดยเฉพาะโปรเจคใหม่ผมอยากจะให้ท่านผู้อ่านนึกภาพตามผมครับ จากเดิมเวลาที่องค์มีแผนงานเกี่ยวกับระบบใหม่ สิ่งที่ขาดไม่แน่นอนคือ การซื้อเซิรฟเวอร์ใหม่เพื่อที่จะมารองรับกับระบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นทำให้ในครั้งต่อ ๆ ไป ถ้ามีโปรเจคใหม่เกิดขึ้นอีก ก็จะต้องมีเซิรฟเวอร์ใหม่ตามมาเรื่อยๆ หรือสรุปให้ท่านผู้อ่านเห็นภาพมากขึ้นคือ 1 โปรเจคหรือ 1 ระบบ จะต้องใช้ 1 เซิรฟเวอร์ แต่ ณ วันนี้ถ้าเรานำเอา Server Virtualization เข้ามาใช้งานในองค์จะกลายเป็น หลายโปรเจคหรือหลายระบบ ใช้งานหรือทำงานอยู่บน 1 เซิรฟเวอร์เท่านั้น เพราะระบบทั้งหลายเหล่านั้นจะรันหรือทำงานใน Virtual Machines และ Virtual Machines เหล่านั้นจะอยู่ใน Physical เซิรฟเวอร์ตัวเดียว และเราสามารถที่จะออกแบบหรือจัดการว่าจะให้ Virtual Machines ไปทำงานที่ Hyper-V เซิรฟเวอร์ตัวใด และยังสามารถเพิ่มในเรื่องของ High Availability เข้าไปในกรณีที่องค์กรมี Hyper-V เซิรฟเวอร์หลาย ๆ ตัว หากเกิดกรณีที่ Hyper-V เซิรฟเวอร์ตัวใดตัวหนึ่งเกิดปัญหาก็จะส่งผลกระทบกับ Virtual Machines ที่อยู่ข้างใน ดังนั้นในกรณีที่มี High Availability, Virtual Machines เหล่านั้นจะถูกย้ายไปทำงานใน Hyper-V เซิรฟเวอร์ตัวอื่นโดยอัตโนมัติ ทำให้ระบบหรือแอพพิเคชั่นองค์กรยังสามารถให้บริการต่อไปได้ โดยที่ผู้ใช้งานไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น และในแง่ของการดูแลรักษา Physical เซิรฟเวอร์ที่เป็น Hyper-V ก็สามารถทำงานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่สั่งย้าย Virtual Machines ที่อยู่ในตัวมันไปทำงานที่ Hyper-V ตัวอื่น ซึ่งกระบวนการในการย้ายนี้จะเป็นแบบอัตโนมัติ และไม่ส่งผลกระทบกับการทำงานอีกด้วย คอนเซปการย้าย Virtual Machines ไปมาตามที่ผมได้ยกตัวอย่างข้างต้นใน Hyper-V จะเรียกว่าการทำ “Live Migration” ครับ และสิ่งที่ผมจะบอกเพิ่มเติมคือ ท่านผู้อ่านสามารถใช้ Live Migration ได้ฟรีโดยไม่ต้องซื้อเพิ่มเหมือนกับโซลูชั่นของค่ายอื่น เพียงแค่ท่านผู้อ่านใช้ Windows Server 2008 R2 Enterprise ขึ้นไปและติดตั้งใช้งาน Hyper-V โดยระบบที่จะใช้งาน Live Migration จะต้องมี Hyper-V เซิรฟเวอร์อย่างน้อย 2 ตัวและต้องมี Storage ในการเก็บ Virtual Machines ครับ ดังรูป
เพียงเท่านี้ท่านผู้อ่านก็จะใช้งาน Live Migration ได้แล้วครับผม และที่สำคัญคือช่วยองค์กรของท่านผู้อ่านประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกเยอะพอสมควรครับ และรูปด้านล่างเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับ Windows Server 2008 R2-Hyper-V ครับ
*EE (Enterprise Edition)
DC (Data Center Edition)
จากรูปด้านบนสิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่ Free Windows Guests ครับ สำหรับท่านผู้อ่านที่ยังไม่คุ้นเคยกับ Server Virtualization ไม่ว่าจะเป็นของค่ายไหนก็แล้วแต่ คำว่า “Windows Guests” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Guest OS” คือ ระบบปฏิบัติการที่นำไปติดตั้งใน Virtual Machine ครับ ในกรณีที่ท่านผู้อ่านซื้อ Windows Server 2008 R2 Enterprise Edition ไปติดตั้งและทำเป็น Hyper-V, 4 Virtual Machines แรกที่ได้สร้างขึ้นแล้วทำการติดตั้ง Windows Server 2008 R2 จะเป็น Standard หรือ Enterprise Edition ท่านผู้อ่านไม่ต้องเสีย License ของ Windows Server 2008 R2 ครับ และถ้าเป็น Data Center Edition, ท่านผู้อ่านสามารถติดตั้ง Windows Server 2008 R2 ลงไปใน Virtual Machines ได้โดยไม่จำกัดครับ ซึ่งทำให้ท่านผู้อ่านประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อ License ไปได้อีกเยอะครับผม สำหรับ Microsoft Hyper-V Server 2008 R2 ที่อยู่ในรูปด้านซ้ายมือ จะเป็น Hyper-V ที่ท่านผู้อ่านสามารถทำการดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีครับ แต่จะไม่ได้ฟรี Guest OS ครับ สำหรับท่านผู้อ่านท่านใดสนใจสามารถดาวน์โหลดได้จากลิ๊งค์นี้ครับ http://www.microsoft.com/downloads/en/details.aspx?familyid=48359dd2-1c3d-4506-ae0a-232d0314ccf6&displaylang=en
สำหรับเครื่องที่จะติดตั้งและทำหน้าที่เป็น Hyper-V นั้น Hardware ของเซิรฟเวอร์ต้องเป็น 64 บิตเท่านั้นครับ เพราะ Windows Server 2008 R2 จะ Platform ที่เป็น 64 บิต เท่านั้นครับ จากนั้นท่านผู้อ่านจะต้องไปเอ็นเอเบิ้ลค่าหรืออฟชั่นที่ BIOS ของเครื่อง ค่าหรือออฟชั่นที่จะต้องไปกำหนดมีอะไรบ้างให้ดูจากรูปด้านล่างครับ
จากรูปด้านบน ท่านผู้อ่านจะเห็นว่า Hyper-V ไม่สามารถทำงานกับ ซีพียูที่เป็น Itanium ครับ สำหรับการติดตั้งรวมถึงการกำหนดค่าต่างๆ ของ Hyper-V ผมขอยกยอดไปต่อกันในตอนต่อไปครับผม .....
ขออนุญาตฝากลิงค์นะคะ
ตอบลบขั้นตอนง่ายๆ กับการสมัครเล่นบาคาร่าออนไลน์
เล่นคาสิโนบนมือถือ เล่นผ่าน App บน iPad iPhone และ มือถือ ระบบ Android ที่นี่เลยค่ะ
https://www.111player.com