สำหรับบทความตอนนี้ผมจะหยิบเอาเครื่องมือที่มีประโยชน์ตัวหนึ่งของทาง
Microsoft ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยเราในการเก็บข้อมูล, วางแผน และทำการประเมินว่า ทรัพยากรปัจจุบันที่มีอยู่ใน Data
Center หรือในห้อง Servers ของเราไม่ว่าจะเป็นเครื่อง Desktops,
Servers, Workloads (VMs) และอื่นๆ
ว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นจะนำเอาข้อมูลส่วนนี้ไปทำการประเมินเพื่อทำการ
Deployment หรือ Migration ระบบตามที่ได้วางแผนไว้ เช่น การทำ Windows Server 2012 Deployment, การทำ
Server Virtualization, Private Cloud และอื่นๆ
เครื่องที่ผมกำลังพูดถึงนี้คือ “Microsoft Assessment and Planning
Toolkit (MAP) “ เวอร์ชั่น 8.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ที่ทาง Microsoft
ได้ทำการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องครับ ผมขออนุญาติเรียกสั้น ๆ ว่า MAP นะครับ
และจากประสบการณ์ที่ผมได้มีโอกาสได้เข้าไปทำการ Planning และ Designing
ระบบต่างๆ เช่น Windows 7 &
Windows 8 Deployment, Server Virtualization และ Private Cloud ให้กับลูกค้า
ขั้นตอนแรกซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะต้องทำก่อนและเป็นอันดับแรก คือ การทำ
Assessment ระบบปัจจุบันที่ลูกค้ามีอยู่ครับ
ว่ามีอะไรบ้างจากนั้นข้อมูลที่ได้จะเป็นข้อมูลตั้งต้นเพื่อที่จะนำเอามาใช้ในการวางแผนและออกแบบครับ และผมขอย้ำนะครับว่าขั้นตอนในการทำ
Assessment นี้ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากและค่อนข้างใช้เวลามากพอสมควร
ซึ่งจะขึ้นอยู่กับระบบของแต่ละองค์กรเองว่ามีความสลับซับซ้อนมากน้อยเพียงไร เพราะว่าข้อมูลที่ได้จาก MAP
นั้นมีประโยชน์มากครับ
เพราะเราจะได้เห็นและทราบว่าระบบของลูกค้าหรือองค์กรนั้นมีอะไรบ้าง อีกทั้งการใช้ MAP ในการทำ
Assessment จะประหยัดเวลาและช่วยให้ IT Manager
หรือผู้ดูแลระบบสามารถทำประเมินระบบของตัวเองได้อย่างง่ายดาย, สะดวกและรวดเร็ว
ด้วยครับ
ไม่ต้องใช้คนมากรวมถึงเวลามากด้วยครับ
เพราะส่วนใหญ่ที่ผมเจอคือระบบของลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการทำ
Inventory อย่างละเอียดเท่าที่ควร หรือบางที่อาจจะไม่มีเลยก็เป็นไปได้ครับ แต่พอว่าวันหนึ่งต้องการที่จะทำการประเมินและทำ
Inventory ระบบขึ้นมา เราก็จะต้องทำการหาเครื่องมือมาช่วยซึ่งแน่นอน
เครื่องไม้เครื่องมือเหล่านั้นอาจจะมีค่าใช้จ่ายและต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ บางองค์กรไม่มีงบประมาณก็จะต้องใช้กำลังคนในการเก็บข้อมูลหรือ
Inventory ของระบบ
ซึ่งก็จะทำให้ต้องใช้กำลังคนและเวลามากอย่างที่ผมเกริ่นเอาไว้ก่อนหน้านี้
ดังนั้นท่านผู้อ่านจะเห็นว่าการทำ Assessment
นั้นจะต้องมีการวางแผนและเลือกเครื่องไม้เครื่องมือที่ง่ายต่อการใช้งานและประหยัดกำลังคนและเวลาด้วย
อีกทั้งข้อมูลที่ได้มาสามารถนำเสนอเป็น Proposals และ Reports ได้อีกด้วย ทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมาคือ
ที่มาที่ไปของการนำเอา MAP เข้ามาช่วยเราในการทำเก็บข้อมูล, วางแผนและประเมิน ตลอดจนสามารถจัดทำเป็นรายงานได้ด้วยครับ และที่สำคัญมากที่สุดคือ MAP
เป็นเครื่องมือที่ทาง Microsoft สร้างและพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าของ
Microsoft สามารถดาวน์โหลดและนำมาใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หรือสั้นและเข้าใจง่าย ๆ คือ ฟรี
นั่นเองครับผม และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาทำความรู้จักกับ
MAP
กันเลยครับ
Microsoft Assessment and Planning Toolkit (MAP) 8.0 คืออะไร
?
MAP เป็นเครื่องมือที่เรียกว่า “Multi-Products
Planning และ Assessment” ซึ่งทำงานแบบ
Agentless Inventory, Assessment และ Reporting Tool ครับ
หมายความว่าเราไม่ต้องทำการติดตั้ง MAP Components ใดๆ
เลยที่เครื่องที่เราต้องการเข้าไปทำการประเมินหรือทำ Inventory ครับ เมื่อทำการติดตั้ง MAP แล้ว MAP จะเริ่มทำการเก็บข้อมูลจากเครื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Desktops, Servers และ VMs
ให้โดยอัตโนมัติ
จากนั้นท่านผู้อ่านสามารถเอาข้อมูลนี้ไปช่วยในการวางแผนการทำ
Deployment หรือ Migration ได้ต่อไปครับ
โดย MAP ยังมีความสามารถในการจัดทำ Assessment Reports และ Executive
Proposals
เรียกได้ว่าเราไม่ต้องเสียเวลาเอาข้อมูลที่ได้จากการทำ Inventory
ไปจัดหน้าตาให้ดูส่วยงามหรือทำเป็น Reports ครับ เพราะ MAP
เค้าจัดการให้เสร็จสรรพครับผม
โดยเฉพาะเรื่องของการทำ Server Virtualization และ Private
Cloud, MAP
จะเป็นเครื่องมือที่เหมาะมากสำหรับการรวบรวมข้อมูล จากนั้น MAP จะนำเอาข้อมูลที่ได้ไปทำ
Virtualization Planning, Identifying Server Placements, รวมถึง
ROI Analysis สำหรับการทำ Server Consolidation ด้วย
Hyper-V ด้วยครับผม และใน MAP 8.0
ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ทาง Microsoft ได้เพิ่มความสามารถให้ MAP อีกมากมาย
ดังนี้:
1. ทำการเก็บข้อมูลและประเมิน สำหรับวางแผนการทำ Windows 8 และ
Windows Server 2012 Deployment
2. ทำการประเมินระบบเพื่อการใช้งาน Office 2013
3. ทำการประเมินและวางแผนการ Migration
ระบบของคุณไปทำงานใน Windows Azure Virtual Machines
4. ทำการประเมินและติดตามการใช้ Lync Enterprise และ Plus
5. ทำการประเมินสำหรับการใช้งาน Virtual Desktop Infrastructure
(VDI) และ Session-Based Virtualization โดยใช้ RDS
6. ทำการประเมิน Linuxs และ VMware Servers เพื่อทำการ
Migration
7. ทำการประเมินข้อมูลสำหรับ Cloud กับ
SQL Server 2012
โปรดติดตาม MAP ตอนที่ 2 เร็วๆ นี้ครับผม.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น