วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เจาะลึกกับ Microsoft Azure Backup Part 2

     สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน เรามาต่อกันในเรื่องราวของ "เจาะลึกกับ Microsoft Azure Backup" กันต่อครับ โดยจะเป็น Part 2 ครับ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมจะพาท่านผู้อ่านทุกท่าน เข้าสู่เรื่องราวของ Azure Backup กันต่อเลยครับผม

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Azure Backup Solutions (รวมถึงข้อดีและข้อจำกัด)


1. Azure Backup (MARS) Agent 
เป็น Solution ที่มีความง่ายต่อการใช้งานและมีคล้ายคลึงกับ Windows Server Backup โดยท่านผู้อ่านสามารถทำการกำหนด Schedule, เลือก Files หรือ Folders ที่ต้องการ Backup ได้ และหากต้องการ Backup ข้อมูลเครื่องไหนก็ให้ทำการติดตั้ง  Azure Backup (MARS) Agent ลงไปที่เครื่องดังกล่าว และทำการ Import Azure Backup/Recovery Vault จากนั้นก็ทำการกำหนดข้อมูลที่ต้องการ Backup รวมถึงการกำหนด Schedule อย่างที่แจ้งไว้ในข้างต้นครับ  เพราะฉะนั้น Solution นี้เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กที่มีจำนวนเครื่องไม่เยอะมากครับ


ข้อดี:
- สามารถทำการ Backup Files และ Folders ที่อยู่บนเครื่องที่มีระบบปฏิบัติการ Windows โดยสามารถเป็น
   Virtual    Machine (จะรันอยู่ใน On-Premise หรือ MS. Azure) หรือ Physical ก็ได้ 
- ไม่ต้องมี Backup เซิรฟเวอร์
- เก็บข้อมูลที่ Azure Backup Vault

ข้อจำกัด:
- สามารรัน Backup Jobs ได้มากสุด 3 ครั้ง/วัน
- การ Restore ทำได้ที่ระดับ Volume/File/Folder
- ไม่ Support การ Backup ในระดับแอพพิเคชั่น (Application Aware)
- ไม่ Support Linux


2. System Center Data Protection Manager (DPM)
เป็นหนึ่งในโปรดักส์ที่อยู่ในชุด Cloud Management ของ Microsoft ที่ชื่อว่า   “System Center 2012 R2” รวมถึง System Center 2016 ครับ ซึ่งสามารถทำการ Backup Hyper-V, SQL, Exchange, SharePoint และอื่นๆ ที่เป็นโปรดักส์ของ Microsoft เท่านั้นนะครับ ซึ่งตัวของ DPM ต้องการ SQL ด้วยนะครับ ดังนั้นองค์กรที่จะใช้ Solution นี้จะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเรื่องของ Licenses (DPM และ SQL) เราสามารถทำการ Integrate ให้ทำงานร่วมกันกับ  Azure Backup ได้ด้วยครับ เพราะฉะนั้น  Solution นี้เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางและใหญ่ครับผม


ข้อดี:
- เป็น App Aware Snapshots (VSS)
- มีความยืดหยุ่นในการ Backup
- Support การ Recover แบบ Granularity หรือจะเรียกว่า ILR (Item Level Recovery)
- เก็บข้อมูลที่ Azure Backup Vault, Locally Attached Disk หรือ Tape (ที่อยู่ใน On-Premise)
- Support Linux (ในกรณีที่รันเป็น Virtual Machine ใน Hyper-V)

ข้อจำกัด:
- ไม่ Support การ Backup Products อื่นๆ นอกจาก Microsoft


3. Microsoft Azure Backup Server (MABS)
MABS มีความคล้ายคลึงกับ DPM ที่ผมได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ครับ แต่มันไม่สามารถ Backup ข้อมูลลง Tape ได้เหมือนกับ DPM


ข้อดี:
- เป็น App Aware Snapshots (VSS)
- Support Hyper-V, SQL Server, IIS, SharePoint, VMware, Physical Servers, และอื่นๆ
- มีความยืดหยุ่นในการ Backup
- Support การ Recover แบบ Granularity หรือจะเรียกว่า ILR (Item Level Recovery)
- เก็บข้อมูลที่ Azure Backup Vault หรือ Locally Attached Disk

ข้อจำกัด:
- ต้องมี Azure Subscription
- ไม่ Support Tape Backup


4. Azure IaaS VM Backup


ข้อดี: 
- Native Backups สำหรับ Windows/Linux
- ไม่ต้องมีการติดตั้ง Agent เพื่อทำการ Backup แต่จะมีการติดตั้ง Azure Backup Extension ไปยัง Azure VM
- เป็น Fabric Level Backup และใช้ VSS ในการทำ Backup
- เก็บข้อมูลที่ Azure Backup Vault

ข้อจำกัด:
- ไม่สามารถกำหนด Schedule ได้ โดยจะถูกกำหนดให้ทำการ Backup 1 ครั้งต่อวัน
- ไม่สามารถ Backup VM ที่อยู่ใน On-Premise Datacenter
และทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของ Azure Backup เบื้องต้นเท่านั้นครับ สำหรับบทความตอนหน้าผมจะพาท่านผู้อ่านเข้าไปสัมผัสและเข้าไปในรายละเอียดต่างๆ ของ Azure Backup มากขึ้นครับ เพราฉะนั้นโปรดติดตามในตอนต่อไปกันนะครับผม.....
 
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น