สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน
หลังจากที่ผมได้โพสไว้ใน FB ผมว่าอยากจะนำเสนอเรื่องราวและคอนเซปของแนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจและมีประโยชน์ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปเป็นวิทยากรที่ไมโครซอฟท์
โดยได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับคอนเซปที่ชื่อว่า “Flexible WorkStyle”
ซึ่งเป็นคอนเซปหรือ Framework
ที่ช่วยองค์กรในการวางแผนในการบริหารจัดการเครื่อง Desktops
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยคอนเซปหรือ
Framework ดัวกล่าวนี้จะช่วยทำให้การบริหารและจัดการ Desktops ในองค์กรมีความยืดหยุ่น,
คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนอกจากนี้ยังทำให้ WorkStyle ในการทำงานของผู้ใช้งานในองค์กรมีความสะดวกมากขึ้น
ซึ่งจะทำให้การทำงานของผู้ใช้งานในองค์กรนั้นมีประสิทธิภาพและหยืดหยุ่นมากขึ้น และส่งผลให้การทำงานโดยภาพรวมขององค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
ซึ่งผมมองเห็นว่าเรื่องนี้น่าจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่านทุกท่านโดยเฉพาะท่านผู้อ่านท่านใดที่มีหน้าที่ในการดูแลและจัดการเครื่อง
Desktops ในองค์กร
และกำลังวางแผนและแนวทางที่จะมาปรับปรุงและพัฒนาการบริหารและจัดการ
Desktops ในองค์กร แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน อย่างไร และจะใช้โซลูชั่นใดดี
ดังนั้นผมจึงนำเอาเรื่องราวนี้มานำเสนอในบทความของผมตอนนี้ครับ
ที่มาที่ไปของการที่ทางไมโครซอฟท์ได้นำเสนอคอนเซปที่เรียกว่า
“Flexible WorkSyle”
นั้นมาจากที่ทางไมโครซอฟท์ได้แจ้งหรือประกาศแล้วว่าจะหยุดหรือเลิกการซัพพอรต์
Windows XP ในเดือนเมษายนปีหน้านี้ครับ
เพราะฉะนั้นจึงทำให้องค์กรต่างๆ ต้องเตรียมวางแผนบริหารจัดการ
Desktops จาก Windows XP มาเป็น Windows 8 หรือ Windows
8.1 ประกอบกัน WorkStyle ในการทำงานของผู้ใช้งานในองค์กรเปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้น
เช่น สมัยก่อนผู้ใช้งานจะมีแค่เพียงดีไวซ์เดียว คือเครื่อง Desktop ที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะเพื่อใช้ในการทำงานต่างๆ หรือบางท่านอาจจะมี 2 ดีไวซ์ เช่นมี เครื่อง Desktop และ Notebook ครับ
และขนาดของเครื่องเหล่านี้จะมีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากพอสมควรครับ อีกทั้งยังไม่มีความคล่องตัวเมื่อผู้ใช้งานต้องการใช้งานจากที่อื่นๆ
นอกเหนือจากโต๊ะทำงาน ดังรูป
แต่เมื่อเทียบกับปัจจุบันผู้ใช้งานหนึ่งคนมีดีไวซ์มากกว่าหนึ่งดีไวซ์ครับ
บางคนมีมากกว่า 2 (รวมถึงตัวผมด้วยครับ)
และดีไวซ์ต่างๆ เหล่านี้ในปัจจุบันจะมีขนาดเล็กลงและมีน้ำหนักเบา
รวมถึงยังสามารถใช้งานได้นานหลายชั่วโมง
อีกทั้งดีไวซ์เหล่านี้ส่วนหนึ่งไม่ใช่เป็นดีไวซ์ที่องค์กรจัดเตรียมไว้ให้ครับ
เพราะดีไวซ์ที่องค์กรเตรียมให้นั้นจะเป็นเครื่อง Desktop หรือ
Notebook ครับ แต่ผู้ใช้งานอยากใช้งานดีไวซ์ที่ซื้อมาเองครับ
เนื่องจากมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา นอกจากนี้ยังมีความคล่องตัวในการใช้งานมากกว่าและไม่ถูกควบคุมหรือจัดการ
Policy ต่างๆ เหมือนกับเครื่อง Desktop หรือ Notebook
ที่องค์กรได้เตรียมไว้ให้
ซึ่งจากจุดนี้เองจึงเป็นที่มาของคำว่า “Bring Your Own Devices”
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า BYOD
ครับ ซึ่งเรื่องของ BYOD
นี่ล่ะครับที่ส่งผลกับการบริหารและจัดการ IT
ขององค์กรครับ เพราะผู้ใช้งานต้องการที่จะนำเอาดีไวซ์ของตัวเองเข้ามาใช้งานในองค์กรเหมือนกับ
Corporate Devices หรือดีไวซ์ที่องค์กรจัดเตรียมให้ครับ
มีวลีหนึ่งที่กำลังเป็นที่สนใจและถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้จนถึงวันนี้ ผมยังได้ยินอยู่ครับ
วลีนี้คือ “Consumerization Of IT”
ซึ่งหมายถึงลักษณะการทำงานและความต้องการของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไปจากเดิม
คือการที่ผู้ใช้งานต้องการความอิสระและยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น
และไม่ได้จำกัดแค่การใช้งานจากดีไวซ์ที่ทางองค์กรได้เตรียมไว้ให้เท่านั้น
อีกทั้งผู้ใช้งาน ณ วันนี้มีดีไวซ์มากกว่าหนึ่งตัว
และต้องการนำเอาดีไวซ์เหล่านี้เข้ามาใช้งานในองค์กร ซึ่งก็คือ BYOD ที่ผมได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ครับ
นอกจากนี้แล้วผู้ใช้งานต้องการเข้าถึงหรือทำงานจากดีไวซ์ไหนก็ได้
จากที่ไหนก็ได้ และเวลาไหนก็ได้ครับ ดังรูป
และทั้งหมดที่ผมได้อธิบายเป็นสิ่งที่สร้างความท้าทายให้กับองค์กรต่างๆ
ว่าจะวางแผนในการบริหารและจัดการอย่างไร และจะเริ่มจากตรงไหนดี
ที่จะสามารถตอบโจทย์และรองรับกับความต้องการเหล่านี้ได้ และช่วงที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกค้าหลายๆ
ที่ครับ ส่วนใหญ่ยังคงใช้ Windows XP กันอยู่ครับ เพราะผู้ใช้งานยังมีความกังวลหลายๆ อย่าง
เช่น เมื่อต้องทำการย้ายหรือเปลี่ยนการใช้งานจาก Windows XP มาเป็น Windows
8 ผู้ใช้งานเกิดความกลัวและกังวลว่าจะไม่สามารถใช้งาน
Windows 8 ได้เพราะยุ่งยากและสลับซับซ้อน , กลัวว่าแอพพิเคชั่นที่ใช้งานอยู่
ณ ปัจจุบันจะไม่สามารถทำงานบน Windows 8 ได้ (Application Compatibility) และอื่นๆ
อีกมากมายครับ เอาล่ะครับเมื่อมาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านได้ทราบถึงที่มาที่ไปของการทำงานแบบ
Traditional WorkStyle คือการทำงานของผู้ใช้งานบน Windows XP
ว่าเป็นอย่างไร เมื่อ Windows 8 หรือ 8.1 ที่กำลังจะออกมาและผู้ใช้งานมีลักษณะหรือ
WorkStyle ในการทำงานเปลี่ยนไป
และมีดีไวซ์หลากหลายรูปแบบที่กำลังจะเข้ามาในองค์กรของเราไม่ว่าจะเป็น
Corporate Devices หรือจะเป็น BYOD ก็ตาม
เราจะวางแผนเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงและความต้องการเหล่านี้ได้อย่างไร ไม่ต้องกังวลครับผม
เพราะทางไมโครซอฟท์ได้นำคอนเซปและเป็น Framework
ที่จะช่วยเราในการวางแผนจัดการเรื่องนี้ อีกทั้งประกอบไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ มากมายครับ
ที่จะพัฒนาและปรับปรุงให้องค์กรของท่านเข้าสู่รูปแบบที่เรียกว่า Flexible
WorkStyle ครับ
โปรดติดตามตอนที่ 2 เร็วๆ นี้ครับผม.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น