Flexible WorkStyle คืออะไร?
อย่างที่อธิบายไว้ในตอนต้นครับว่า เป็นแนวคิดหรือ Framework
ที่ทางไมโครซอฟท์ได้ออกแบบมาให้ลูกค้า
โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยองค์กรในการวางแผนการบริหารและจัดการเครื่อง
Desktops ในองค์กรให้มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ นอกจากนี้แล้ว Flexible WorkStyle ยังประกอบด้วย
Products และเครื่องมือต่างๆ
อีกมากมายครับ
สิ่งแรกที่จะต้องทำสำหรับการที่องค์กรจะพัฒนาและปรับปรุงเพื่อเข้าสู่แนวคิด
Flexible WorkStyle คือ การวางแผนและออกแบบ Desktop ในรูปแบบใหม่
(Modernize Desktops) เพื่อเป็นมาตราฐานของ Desktop ที่จะถูกนำมาใช้ในองค์กรครับ จากรูปด้านล่าง
จากรูปที่ท่านผู้อ่านเห็นอยู่นี้ แสดงถึงส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่อง Desktop
ของผู้ใช้งานในองค์กรครับ
ลองนึกภาพตามผมนะครับว่าเจ้ารูปสี่เหลี่ยมด้านบนนั้นคือ เครื่อง
Desktop ที่เราเห็นอยู่ในออฟฟิศของเราเองหรือเห็นอยู่ทั่วไปครับ ภายในเครื่อง
Desktop จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบย่อยๆ ดังนี้ครับ
1. Hardware คือ ส่วนตัวเครื่อง Desktop ทั้งหมดครับไม่สนใจว่าจะมีสเปคอย่างไร จะเป็น
Desktop หรือ Notebook
2. Operating System คือ ระบบปฎิบัติการที่ถูกติดตั้งและทำงานบน
Hardware ดังกล่าว เช่น Windows XP ที่เราใช้งานกันอยู่
3. Application Management คือ แอพพิเคชั่นต่างๆ ที่ถูกติดตั้งมาที่เครื่องของผู้ใช้งาน
จะเป็นแอพพิเคชั่นที่องค์กรติดตั้งมาให้จะผ่านทาง Scripts, Group Policy
หรืออื่นๆ ก็แล้วแต่ครับ
หรือแม้กระทั่งผู้ใช้งานติดตั้งแอพพิเคชั่นเองด้วย
4. Data & Settings คือ ข้อมูลที่เก็บอยู่บนเครื่อง Desktop ครับ
โดยจะแบ่งได้ 2 แบบ คือ ข้อมูลส่วนตัว
(Personal Data) และ
ข้อมูลของการกำหนดค่าต่างๆ (Data Settings) เช่น
User State และ Application Settings เป็นต้นครับ
เช่น ทุกๆ 3-5 ปีจะต้องเปลี่ยน สิ่งที่เราจะต้องมาเตรียมคือ
สเปคเครื่องจะเป็นอย่างไร, จะทำ Image ทั้งหมดกี่ Images, จะติดตั้งแอพพิเคชั่นอย่างไร, จะทำการย้ายข้อมูลและค่า
Settings (User State Settings) อย่างไร และอื่นๆ
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่หลายองค์กรต้องเจอครับ
แต่จะวางแผนรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะส่วนใหญ่ยังมองแค่ว่า การเปลี่ยน
Hardware ของเครื่อง Desktop คือ การเตรียมทำ Image ใหม่ โดยที่
Image ดังกล่าวนี้จะมีแอพพิเคชั่นต่างๆ
ติดตั้งเข้าไปด้วยครับ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Image มีขนาดใหญ่
และอาจจะมีหลาย Images ทำให้ดูแลยาก
ด้วยรูปแบบนี้เองทำให้เกิดปัญหาต่างๆ
ตามมาอีก เช่น เกิดความไม่คล่องตัวหรือความยืดหยุ่นในการใช้งาน เช่น
ผู้ใช้งานอยากใช้งานจากดีไวซ์ต่างๆ ได้ จากที่ไหนก็ได้
ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เครื่อง Desktop ที่องค์กรเตรียมให้ เรื่องต่อมาคือ
ผู้ใช้งานอยากได้สภาพแวดล้อมในการทำงาน (User Environment),แอพพิเคชั่น, ข้อมูล,
User State Setting และอื่นๆ ตามมา เมื่อใช้งานในดีไวซ์ต่างๆ
ซึ่งจาก 4 ส่วนประกอบย่อยๆ ของ
Desktop ด้านบนที่ออกแบบในรูปแบบที่เป็น Traditional Desktop
จะตอบโจทย์หรือรองรับกับความต้องการแบบนี้ไม่ได้เลย
เนื่องจากทุกส่วนประกอบติดตั้งอยู่ในเครื่อง Desktop ทั้งหมดเลย
ดังนั้นการที่จะพัฒนาและปรับปรุง
Modernize Desktop หรือ Desktop ในรูปแบบใหม่และจะเป็นมาตราฐานของเครื่อง
Desktop ในองค์กรและเพื่อรองรับกับแนวคิดหรือคอนเซป Flexible
WorkStyle นั้นจะต้องทำการแยกส่วนประกอบทั้ง 4
ส่วนนี้ออกมาครับ จากนั้นใช้ Virtualization เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการออกแบบ
Desktop ครับ ดังรูปด้านล่างครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น